หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

กฎหมายแพ่งฉบับแก้ไขมีผลบังใช้แล้ว

วันนี้กฏหมายแพ่งฉบับแก้ไขมีผลบังคับใช้แล้ว

ขอสรุปสาระสำคัญ พรบ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์(ฉบับที่20)พ.ศ.2557 ดังนี้



(1)กฎหมายใหม่นี้จะเริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่11กุมภาพันธ์2558เป็นต้นไป

(2)สัญญาค้ำประกันจะต้องระบุไว้ให้ชัดเจนว่าค้ำประกันหนี้อะไร จำนวนเท่าใด และผู้ค้ำประกันจะรับผิดชอบเฉพาะหนี้ที่ระบุไว้ชัดเจนเท่านั้น หากขาดความชัดเจน ผลจะตกเป็นคุณแก่ผู้ค้ำประกันที่อาจทำให้ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิด

(3)สัญญาค้ำประกันจะมีข้อตกลงกำหนดให้ผู้ค้ำประกันเป็นลูกหนี้ร่วมกับลูกหนี้ชั้นต้น ไม่ได้ หากฝ่าฝืนตกลงกันไป ข้อตกลงในส่วนนั้นจะตกเป็นโมฆะ

(4)กรอบความรับผิดของผู้ค้ำประกันที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้บัญญัติไว้(ตาม ม681วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม ม694 ม698 และ ม699)เจ้าหนี้กับผู้ค้ำประกันจะทำสัญญากันกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นเพื่อขยายความรับผิดของผู้ค้ำประกันให้แตกต่างไปจากที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่ได้  หากฝ่าฝืนทำสัญญาตกลงกันไป ข้อตกลงที่ขยายความรับผิดของผู้ค้ำประกันนี้จะตกเป็นโมฆะ

(5)ขั้นตอนในการที่เจ้าหนี้จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ เดิมกฎหมายไม่ได้เขียนไว้ให้ชัดเจนนัก แต่กฎหมายใหม่ได้เขียนขั้นตอนให้เจ้าหนี้ต้องปฏิบัติไว้อย่างชัดเจน หากเจ้าหนี้ปฏิบัติผิดขั้นตอน หรือไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน อาจมีผลทำให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดได้

(6)ถ้าเจ้าหนี้ลดหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ชั้นต้นเท่าใด ก็ให้ภาระความรับผิดของผู้ค้ำประกัน ลดลงเท่านั้น    ให้ตกเป็นโมฆะ

(7)การตกลงกันไว้เป็นการล่วงหน้าว่า หากเจ้าหนี้ผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้ ให้ถือว่าผู้ค้ำประกันให้ความยินยอมในการผ่อนเวลานั้นๆด้วย เช่นนี้ กฎหมายใหม่ให้ถือว่าตกเป็นโมฆะ

(8)การจำนองที่จำนองเป็นประกันหนี้ของผู้อื่น(ผู้จำนองกับลูกหนี้เป็นคนละคนกัน) จะมีข้อตกลงกันว่าหากบังคับจำนองแล้วยังเหลือหนี้อยู่เท่าใด ให้ผู้ค้ำประกันยังคงรับผิดชำระหนี้ ในส่วนที่ยังคงเหลือด้วย ข้อตกลงเช่นนี้ จะตกเป็นโมฆะตามกฎหมายใหม่

(9)กฎหมายเดิมไม่มีบทบัญญัติให้สิทธิแก่ฝ่ายผู้จำนองในการที่จะเป็นฝ่ายเร่งรัดให้มีการบังคับจำนองให้จบๆไป  แต่กฎหมายใหม่ได้มีบทบัญญัติให้สิทธินี้แก่ผู้จำนอง ซึ่งเจ้าหนี้จะต้องบังคับจำนอง ขายทอดตลาดภายใน1ปี(โดยไม่ต้องฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาลเพราะฝ่ายผู้จำนองเป็นฝ่ายเร่งรัดเอง)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น